วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553



ปัจจุบันสินค้าที่ใช้ในการผลิตถูกลอกเลียนแบบมากขึ้น โดยเอารัดเอาเปรียลบจากผู้ผลิต จึงทำให้เกิดการสูญเสียผลประโยชน์ที่พึ่งได้ เพราะฉะนั้นจึงมีการคิดหมายป้องกันทรัพย์สินทางปัญยญาขึ้น เพื่อให้ผู้คิดค้นไม่หมดกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ต่อไป
ประวัติ
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2542 คุณตัน ภาสกรนที กรรมการผู้จัดการ ได้เปิดให้บริการร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์บุฟเฟ่ต์ตลอดทั้งวัน แห่งแรกในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ "OISHI" หรือ "โออิชิ" ที่สุขุมวิท 55 (ซอยทองหล่อ) ซึ่งสร้างความแตกต่างและความแปลกใหม่ให้แก่ผู้บริโภค ทั้งรูปแบบการให้บริการและราคา โดยคำนึงถึงความสดใหม่และความคุ้มค่าของผู้บริโภคเป็นสำคัญ ทำให้ได้รับกระแสตอบรับอย่างสูงจากผู้บริโภค ส่งผลให้ชื่อ "โออิชิ" มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ได้รับความนิยม และความเชื่อถือ จากกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัยอย่างรวดเร็ว ต่อมาในปี 2543 ได้จัดตั้ง บริษัท โออิชิ เรสเตอร์รอง จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 10 ล้านบาท (ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) "บริษัทฯ") กิจการร้านอาหารได้เริ่มขยายสาขาออกไปในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อตอบรับกระแสความนิยม และความต้องการของลูกค้า ต่อมาบริษัทฯ ได้เล็งเห็นศักยภาพและโอกาส ในการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเบเกอรี่เพื่อสุขภาพ จึงได้เปิดร้านอาหารประเภทดังกล่าวภายใต้ชื่อร้านค้าต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของกลุ่มลูกค้า ดังสามารถลำดับพัฒนาการสำคัญของธุรกิจในกลุ่มบริษัท จากอดีตถึงปัจจุบัน

ปัจจัยที่ทำให้แบรนด์มีคุณค่า โดยอ้างอิงองค์ประกอบของคุณค่าแบรนด์ทั้ง 4 ของ David Aaker

Awareness



การรับรู้ต่อตราสินค้าของผู้บริโภคต่อโออิชิ ตราสินค้าของโออิชิที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัวเมื่อเห็นสัญลักษณ์ ที่มีสีแดงกลมมีอักษรสีแดงตรงกลางที่เขียนเป็นภาษาญี่ปุ่นตัวเดียว ก็บ่งบอกได้ว่าเป็นโออิชิในรูปของทรงกล่องและสีสันที่แตกต่าง เมื่อทุกครั้งที่ผู้บริโภคเห็นก็จะรับรู้ได้ทันที ถ้าให้นึกถึงชาเชียว ผู้บริโภคก็จะเกิดภาพตราในความคิดมาสามสี่อย่าง แต่เราต้องมาวิเคราะห์แบรนด์ของเราอยู่ในความนึกคิดของผู้บริโภคหรือไม่และเราอยู่อันดับใดในใจของผู้บริโภค

การับรู้ในตราสินค้าของโออิชิ โออิชิสร้างการรับรู้ทุกช่องทาง เช่น โทรทัศน์ วิทยุ ป้าย แผ่นพับเป็นต้น ทำให้คนเกิดการจดจำ แผ่ขยายเป็นวงกว้าง เมื่อผู้บริโภคเกิดความรับรู้ต่อตราสินค้า มากเท่าไรก็จะนำไปสู่ความไว้วางใจ จนเลือกซื้อเราเป็นอันดับแรก


Brand Loyalty



ความจงรักภักดีที่ผู้บริโภคมีต่อตราสินค้า คือ คุณลักษณะของแบรนด์ที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าดังกล่าวอยู่ทั้งที่มีความพยายามแย่งผู้บริโภคจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ อาจวัดได้โดยความพึงพอใจและอัตราการเปลี่ยนแบรนด์ของผู้บริโภคได้ ถือว่ามีความสำคัญ มากที่สุด ของการสร้างคุณค่าตราสินค้าภายใต้แบรนด์โออิชิ มีผลิตภัณฑ์มากมาย และส่วนใหญมักจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค เครื่องดื่ม อาหารญี่ปุ่น มีปัจจัยหลายอย่างที่ผู้บริโภคเกิดความภักดีต่อแบรนด์นี้จนเกิดคุณค่าตราสินค้า จะเห็นได้ว่า โออิชิเข้ามาเล่นในตลาดเครื่องดื่มชาเขียว ทั้งที่ไม่ได้เป็นเจ้าแรก แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จ ก่อนหน้าที่โออิชิจะเข้ามาสร้างตลาดเครื่องดื่ม โออิชิมีสินค้า คือร้านอาหารญี่ปุ่น ทั้งแบบราเมน ชาบู Express buffet Grand ร้านอาหารญี่ปุ่นโออิชิถือเป็นอันดับต้นในประเทศไทย เนื่องจากมีให้เลือกหลากหลายประเภท แต่ที่โออิชิได้รับความประสบความสำเร็จอย่างดีมาก คือเครื่องดื่มชาเขียวโออิชิ คุณลักษณะที่ทำให้ผู้บริโภคจงรักภักดีต่อแบรนด์โออิชิ มีปัจจัยหลายอย่างต่อไปนี้

1.) โออิชิพยายามสร้างแบรนด์ให้ดูทันสมัย ตลอดเวลา สร้างให้รู้ว่าโออิชิยังมีชีวิตอยู่เสมอ เมื่อผู้บริโภครับรู้และก็เกิดการซื้อและเมื่อผู้บริโภคซื้อซ้ำซ้ำ ผู้บริโภคก็จะเกิดความเคยชิน จนเกิดความภักดีต่อแบรนด์

2.) โออิชิมีการผลิตที่เป็นมาตราฐาน สามารถรักษารสชาติได้คงที่ภาพโดยรวมทั้งหมดทำให้โออิชิดูเป็นแบรนด์ที่มีความมั่นคง ทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจว่าแบรนด์มีความเป็นแบรนด์ที่ดี ผู้บริโภคจึงให้ความจงรักภักดีกับแบรนด์

3.) โออิชิมีผู้บริหารคือคุณตัน ที่มีแนวคิดที่ดีและเป็นผู้บริหารที่ดีมากคนหนึ่งโดยในการโฆษณาในรุ่นแรกๆคุณตันได้เป็นพรีเซนเตอร์เองในการที่จะทำให้ผู้บริโภคเชื่อและมั่นใจ ในตัวของแบรนด์ ในการจัดแคมเปญแต่ละครั้ง ผู้บริหารจะเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อให้เกิดความรู้ว่าแบรนด์มีความ มั่นคงและใกล้ชิดกับผู้บริโภคเช่น การไปมอบรางวัลผู้โชคดีจากฝาโออิชิ , การบินลัดฟ้ากับโออิชิ เป็นต้น ในแต่ละครั้ง ผู้บริหารจะลงมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับผู้บริโภค




Perceived Quality




การับรู้ในคุณภาพสินค้าเกิดจากการได้ทดลองใช้มากกว่าการรับฟังรายละเอียดเพราะคุณภาพที่รับรู้เป็นสิ่งที่วัดได้แต่จับต้องไม่ได้ เพราะเป็นความรู้สึกโดยรวมของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าหนึ่ง โดยคุณภาพที่รับรู้จะแตกต่างกันไปตามแต่ละสินค้า ทั้งนี้เกิดจากหลายปัจจัย เช่น เรื่องส่วนผสมทางการตลาด ทัศนคติการรับรู้เป็นต้น โออิชิ มีเครื่องมือ ในการผลิตที่มีคุณภาพ มีวัตถุดิบที่ดี มีประสิทธิภาพ มีเครือข่ายการทำงานที่มั่นคง ในการพิจารณาถึงคุณภาพของสินค้าหรือบริการนั้น ผู้บริโภคสามารถพิจารณาได้จากส่วนต่าง ๆ ของสินค้าหรือบริการทั้งหมด 7 ส่วน คือ ผลงานของสินค้า คือคุณลักษณะการทำงานขั้นพื้นฐานของสินค้า ลักษณะพิเศษของสินค้า เป็นองคต์ประกอบเสริมของสินค้า ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคทราบว่าบริษัทมีความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคหรือไม่ การปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ตั้งไว้ เพื่อให้สินค้าที่ผลิตออกมามีคุณภาพไม่เกิดความเสียหายเมือ่ถึงมือลูกค้า ความไว้ใจในตัวสินค้า คือความสม่ำเสมอในคุณภาพสินค้า ซึ่งผูบริโภคซื้อแต่ละครั้งจะต้องมีคุณภาพสม่ำเสมอเท่ากันตลอดไป ความคงทนถาวรของสินค้า ความสามารถในการใช้งานสินค้านั้น ๆ และความเหมาะสมพอดี หรือผลงานขั้นสุดท้ายของสินค้าว่าผลิตออกมา และนำไปใช้ได้ดีมีประสิทธิภาพ จากที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น จะทำให้ผู้บริโภคเกิดการรับรุ้ของคุณภาพของสินค้าที่ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจได้ โดยที่โออิชิได้สร้างสิ่งที่กล่าวมาอย่างมีประสิทธิภาพจึงเกิดเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคเกิดความไว้ใจ





Brand associations

แบรนด์โออิชิมีการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างชัดเจนและอย่างต่อเนื่อง

โดยใช้จุดยืนของแบรนด์ในการสื่อสารดูได้ตั้งแต่การตั้งชื่อ ออกแบบผลิตภัณฑ์ และกิจการ
ที่มีความเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นการแสดงถึงความเป็นญี่ปุ่น เริ่มจากการตั้งชื่อ เช่นโออิชิแปลว่าอร่อย
ซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างกว่าผู้อื่นทำให้เกิดาการจด
จำเหนือIdenityของคู่แข่ง ร่วมไปถึงตัวผลิตภัณฑ์
ที่มีความเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นอย่างลงตัวโออิชิได้มีการพัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคอย่างทุกกลุ่มอย่างเช่นกลุ่มเครื่องดื่ม ชาเขียวต่างๆ หรือเป็นอาหาร พวกราเมง ซูชิต่างๆ ก็มีเลือกให้เลือกหลากหลาย



การคุ้มครองคุณค่าแบรนด์ผ่านกฎหมาย IP Protection


แบรนด์โออิชิได้มีการจดทะเบียนทางเครื่องหมายการค้าเพื่อแสดงสิทธิทางการค้า เพื่อแสดงถึงสิทธิทางการค้าและสิทธิในการคุ้มครองแบรนด์อย่างเต็มที่ เพราะจากการที่ทราบกันอยู่แล้วว่าแบรนด์โออิชิเป็นแบรนด์ที่มีฐานทางการตลาดที่มีความมั่นคงและแข่งแกร่งกว่าคู่แข่งในตลาดเดียวกัน ซึ่งอาจทำให้เกิดการลอกเลียนแบบไม่ว่าจะเป็นตัวผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ เป็นต้น ด้วยความแข่งแกร่้งของแบรนด์โออิชิอาจส่งผลให้เกิดการแข่งขันที่สูงขึ้น อาจทำให้เราต้องสูญเสียผลประโยชน์ที่ควรจะได้มาและการจดทะเบยนคุ้มครองที่ถูกต้องจะช่วยคุ้มครองแบรนด์เราให้ปลอดภัย จากผลเสียของการแข่งขันของผู้แข่งขันต่างๆที่มีการแข่งขันเกิดขึ้นและการคุ้มครองนี้จะช่วยรักษาผลประโยชน์ให้กับเรามากที่สุด ทำให้เราสามารถพัฒนาคุณภาพสินค้าเต็มที่ตอบสนองความต้องการอย่างดี และรวมไปถึงการวางแผนการตลาดที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ฉะนั้นจดทะเบียนการคุ้มครองที่จะเป็นการรักษาสิทธิ์ได้อีกทาง ไม่สามารถมีผู้ใดมาละเมิดสิทธิของแบรนด์เราได้ อีกทั้งเราจึงต้องตระหนัดถึงการคุ้มครองคุณค่าแบรนด์ผ่านกฎหมาย เป็นการคุ้มครองที่ทำให้เราเกิดประโยชน์สูงสุด ไม่แปลกถ้าเราจะพบเห็นแบรนด์คู่แข่งที่พยายามสร้างกระแสเพื่อจะกลบเราหรือทำให้เราหลุดออกไปจากตลาด เพือทำให้แบรนด์เราเสียผลประโยชน์มากที่สุด แต่การจดทะเบียนคุ้มครองคุณค่า แบรนด์จะมีหน้าที่รักษาคุ้มครองแบรนด์ รวมไปถึงการรักษาผลประโยชน์ให้กับเรามากที่สุด เพื่อไม่ให้ชื่อเสียงของแบรนด์เราสูญเสียไป






ปัจจัยที่เป็นแรงผลักดันความสำเร็จในการสร้างคุณค่าของแบรนด์ไทย
ในทุกวันนี้แบรนด์ไทยนั้นมีหลายอย่างที่ได้รับความนิยมจนประสบความสำเร็จและสามารถเพิ่มมูลค้าให้กับมากมาย
จนกลายเป็นที่รู้จักของผู้คนในปัจจุบัน
คุณภาพของสินค้า
คุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์นั้นประสบความสำเร็จได้ เนื่องจากสินค้าหรือบริการ ซึ่งเป็นระดับของคุณลักษณะเฉพาะ ที่เน้นย้ำถึงคุณภาพเป็นอันดับแรก ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้า เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในปัจจุบัน ซึ่งองค์กรใดก็ตาม หากสามารถผลิตสินค้า หรือให้บริการที่มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า และมีความมุ่งมั่น ที่จะทำให้มีคุณภาพเหนือความคาดหวังของลูกค้าได้ องค์กรนั้นย่อมประสบความสำเร็จ ในการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด และมีผลกำไรสูงสุด
จุดยืนของแบรนด์
จุดยืนของแบรนด์นั้นจะต้องมีความเด่นชัดและตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างดี อย่างแบรนด์โออิชินั้นที่เป็นผู้นำและสร้างสรรค์ธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ญี่ปุ่น ที่จะเน้นเรื่องวิวัฒนาการในแง่ของตัวผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และการตลาดที่โดนใจที่ตอบโจทย์ผู้ดีบริโภคด้วยจำนวนสาขาที่มีมากถึง 104 สาขา ในปัจจุบันกับแบรนด์ถึง 7-8 แบรนด์ ทำให้โออิชิครองตำแหน่งผู้นำในตลาดร้านอาหารญี่ปุ่นอย่างชัดเจนในวันนี้
การวางแผนการตลาดที่ดี
การทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่นั้นจะต้องมีการวางแผนไว้ ซึ่งจะต้องสอดคล้องกับสัมพันธ์กับแผนธุรกิจ เพื่อที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถ่วงที ซึ่งแผนการตลาดของโออิชินั้นก็ยังมีการคิดค้นไม่ว่าจะก่อสร้างโรงงานเพิ่มขึ้นเป็นแหล่งที่3เพื่อที่จะขยายการตลาดให้มีความทันสมัยและเจริญเติบโตทางธุรกิจไปยิ่งขึ้น
กิจกรรมทางการตลาด
กิจกรรมการตลาดเป็นสิ่งหนึ่งที่ให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยการส่งเสริมยอดขาย สร้างภาพลักษณ์และการสร้างการตระหนักรู้ในตัวสินค้าและบริการของบริษัท จะเป็นการทำกิจกรรมทางการตลาดด้านการส่งเสริมการขาย ถ้าอย่างโออิชิ กรุ๊ป” ฉลองความสำเร็จในฐานะผู้นำการสร้างสรรค์ธุรกิจอาหารญี่ปุ่นอันเลื่องชื่อของประเทศไทยเป็นเวลากว่าทศวรรษ จัดงาน “เปิดขุมคลังพลังซามูไร ลั่นกลองชัย...โออิชิ 10 ปี” (OISHI 10th Anniversary) เพื่อให้ผู้บริโภคได้ลุ้นรางวัลใหญ่ซึ่งเป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ให้ได้รับความนิยมต่อไปยิ่งขึ้น
ผู้บริหารและบุคลากรที่ดี
การที่จะนำธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้นั้นผู้บริหารและบุคลากรจะต้องมีประสบการณ์ความรู้เป็นอย่างดี มีมุมมองที่แตกต่างสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคให้เป็นที่จดจำและยังสามารถพัฒนาและแก้ไขสถานการณ์ต่างๆได้อย่างรวดเร็ว คุณตัน ภาสกรนที ผู้บริหารโออิชิกรุ๊ปที่มีความสามารถในการบริหารแบรนด์ให้เกิดมูลค่าและคุณค่าทั้งในด้านตัวผลิตภัณฑ์และตัวแบรนด์โออิชิเอง นับได้ว่ามีมูลค่ามากในด้านของตัวแบรนด์
กลุ่มลูกค้า หรือ ผู้บริโภค
จากการที่โออิชิมีผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกันได้ในทุกๆกลุ่ม ดังนั้นกลุ่มลูกค้าจึงมีอิทธิพล ในการที่จะผลิตหรือออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด การที่แบรนด์จะประสบความสำเร็จได้นั้น ไม่ใช่แค่แบรนด์ดี บุคลากรดี ฯลฯ แต่เพียงเท่านี้แล้วจะประสบความสำเร็จ ผู้บริโภคก็มีส่วนสำคัญที่เป็นแรงผลักดัน ที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จอีกด้วย การที่เราจะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ เราจะต้องทำให้แบรนด์เราเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภคให้ได้ ให้เขาจดจำ รับรู้ นึกถึงแบรนด์เราเป็นแบรนด์แรก ( Top of Mind ) ตามที่ทางเราตั้งเป้าหมายไว้

จัดทำโดย
นายธนาวิทย์ เมฆดำ ID. 1500322894 NO. 38
นายธัญ เผ่าบรรจง ID. 1500326861 NO. 43
นางสาววรภรณ์ บุตรโสม ID. 1500328685 NO. 44
นางสาวดวงรัตน์ เมฆาอภิรักษ์ ID. 1500330400 NO. 45
นางสาววิลาวัณย์ เฮงสกุล ID. 1500331143 NO. 46
นางสาวพัชรนันท์ อุทัยธิรัตน์ ID .1500331739 NO. 48
SECTION3391